รายการบทความที่ค้นหา

รายการบทความที่ค้นหา

277 รายการ
ในการทำเกษตร จะมีขยะเหลือทิ้งจากการทำเกษตรกรรมอยู่อย่างมากมาย หลายคนมองเป็นแค่สิ่งไร้ค่าไม่สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ อาทิเช่นฟางข้าว ใบอ้อย ก้านมันสัมปะหลัง ตอซังข้าว ต้นข้าวโพด ต้นถั่วและเปลือกถั่วลิสง ฯ จึงลงเอยด้วยการนำไปเผาทิ้งอย่างไร้ค่า
7023 ผู้เข้าชม
เทคนิคการจัดการน้ำในนาข้าวแบบเปียกสลับแห้ง       การผลิตข้าว 1 กิโลกรัมใช้น้ำในการเพาะปลูกมากถึง 1,670 ลูกบาศก์เมตร ดังนั้นเทคนิคการจัดการน้ำอย่างประหยัดแบบเปียกสลับแห้ง ซึ่งสามารถประหยัดน้ำได้สูงสุด 50% ลดต้นทุน 8-13 % และลดการปลดปล่อยก๊าซมีเทน 80 % เลยทีเดียว
29338 ผู้เข้าชม
วันที่ 23-27 มีนาคม 2564 ดร.ตะวัน ห่างสูงเนิน ประธานมูลนิธิฯ ทีมนักส่งเสริมการเกษตร และอาสาสมัครมูลนิธิเกษตรรักษ์สิ่งแวดล้อม (ประเทศไทย) ร่วมกับผู้นำชุมชนและชาวบ้าน ทำแนวกันไฟ และทำฝายดักตะกอนซึ่งแบ่งเป็น 3 พื้นที่คือวันที่ 23 มีนาคม ทำที่ ต.วังทอง อ.วังเหนือ จ.ลำปางวันที่ 24 มีนาคม ทำที่ ต.ก้อ อ.ลี้ จ.ลำพูนวันที่ 27 มีนาคม 2564 ต.แม่ลาน้อย อ.แม่ลาน้อย จ.แม่ฮ่องสอนโดยมีชาวบ้าน้ข้าร่วม จำนวนกว่า 100 คน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อทำแนวกันไฟ ป้องกันการลุกลามของไฟป่าและทางมูลนิธิเกษตรรักสิ่งแวดล้อม (ประเทศไทย) ได้มอบเครื่องเป่าลม ไม้กวาด กล่องพยาบาล และหน้ากากผ้า ให้กับชุมชนนั้นๆ เพื่อใช้ในการทำแนวกันไฟในครั้งนี้ และครั้งต่อๆไป
612 ผู้เข้าชม
วันที่ 16 มีนาคม 2564 มูลนิธิเกษตรรักษ์สิ่งแวดล้อม (ประเทศไทย)  จัดกิจกรรมอบรม ภายใต้โครงการเพื่ออากาศบริสุทธิ์ และป่าสมบูรณ์ โดยมีหัวข้อ 3 หัวข้อ ได้แก่ การเพาะเห็ดฟางในตะกร้า การทำปุ๋ยหมักจากซังและเปลือกข้าวโพดพร้อมทั้งฝึกปฏิบัติ โดยท่านวิทยากร นายพงศกร ห้องพ่วง เกษตรตำบล ตำบลวังทอง และเรื่อง การทำอาหารหมักจากซังและเปลือกข้าวโพด พร้อมทั้งฝึกปฏิบัติ โดยท่านวิทยากร ผศ.ดร.นรินทร์ ทองวิทยา มหาวิทยาลัยแม่โจ้ณ เทศบาลอาคารเอนกประสง ตำบลวังทอง อำเภอวังเหนือ จังหวัดลำปาง โดยมีเกษตรกรให้ความสนใจเข้าอบรมในครั้งนี้กว่า 50 คน
687 ผู้เข้าชม
มูลนิธิเกษตรรักษ์สิ่งแวดล้อม(ประเทศไทย)ขอเชิญผู้ที่มีจิตอาสา ร่วมเป็นอาสาสมัครทำแนวกันไฟ และขอเชิญผู้ใจบุญร่วมบริจาคเงินสมทบทุนในการซื้ออุปกรณ์ในการทำแนวกันไฟภายใต้โครงการ จิตอาสา สู้ไฟป่า เพื่ออากาศบริสุทธิ์ และป่าสมบูรณ์ในพื้นที่สูงเขตจังหวัดภาคเหนือ
856 ผู้เข้าชม
สาเหตุหลักที่ทำลายพื้นที่ป่าอย่างรวดเร็ว และเป็นการทำลายสภาพสมดุลของระบบนิเวศอย่างมหาศาล คือไฟป่าซึ่งให้เกิดการสูญเสียโครงสร้างของป่า และระบบนิเวศป่าไม้ นอกจากการเกิดไฟป่าก่อให้เกิดผลกระทบต่อการทำลายป่าให้เหลือลดน้อยลงแล้ว ยังก่อให้เกิดมลภาวะทางอากาศ และภัยแล้งตามมาอีกด้วย อีกทั้งไฟป่ายังเป็นสาเหตุหลักของการทำลายแหล่งเก็บกักก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งเป็นก๊าซที่ทำให้เกิดปรากฏการณ์เรือนกระจก (Greenhouse Effect) ทำให้เกิดความผันแปรของสภาวะภูมิอากาศของโลก (Climate Change) ส่งผลให้เกิดภาวะโลกร้อน (Global Warming ) ดังนั้นไฟป่าจึงเป็นปัญหาที่ทุกคนต้องร่วมมือกันในการแก้ไขปัญหา เพื่อลดผลกระทบต่าง ๆ  ที่เกิดขึ้นตามมา
3162 ผู้เข้าชม
สร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปฟรี ร้านค้าออนไลน์